วังปารุสกวัน
คุณเคยอ่านหนังสือเกิดวังปารุสก์ไหม?
หนังสือเล่มนี้คืออัตชีวประวัติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ หรือพระองค์จุล เล่าถึงชีวิตภายในราชสำนักและการเมืองไทยสมัยรัชกาลที่ ๕-๗ แม้จะเคยอ่านหรือไม่ วันนี้ผมขอชวนคุณปิดหนังสือออกไปเดินชมวังปารุสก์ หรือวังปารุสกวัน ของจริง อันสวยงามกว่าฉากที่เคยจินตนาการผ่านตัวอักษรในหนังสือยิ่งนัก
วังปารุสกวันมีสองตำหนัก คือ ตำหนักปารุสก์ที่พระองค์จุลประทับเมื่อครั้งพระเยาว์ และตำหนักจิตรลดาที่เราจะพาไปชม ซึ่งรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร แต่เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์และย้ายไปประทับที่พระราชวังดุสิต จึงพระราชทานตำหนักนี้ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ (พระบิดาของพระองค์จุล) พระอนุชาซึ่งประทับอยู่ตำหนักปารุสก์ใกล้เคียงกัน แล้วให้รวมทั้งสองตำหนักเป็นเขตเดียวกัน
ตำหนักจิตรลดาสร้างเสร็จในปี ๒๔๔๘ หลังรวมเป็นเขตเดียวกับตำหนักปารุสก์ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ได้ใช้เป็นเรือนรับแขก ตัวอาคารเป็นแบบอิตาเลียนวิลลาสองชั้น ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบสไตล์ลิเบอร์ตี (Stile Liberty) ของอิตาลีซึ่งสมัยนั้นเป็นที่นิยมทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันตำหนักจิตรลดาอยู่ในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมเดินผ่านสนามหญ้าสีเขียวสดหน้าตำหนัก ขึ้นบันไดที่มีมุขหน้าสวยงาม แล้วเลี้ยวตามภัณฑารักษ์เข้าไปในห้องแรกทางซ้าย สิ่งที่ได้สัมผัสคือ ความสะอาดสะอ้าน ความเย็นสบายน่าเดินชม และความหรูหราอลังการของเพดานห้องที่ประดับโคมไฟสว่างสวยงาม โทนสีห้องเข้ม เรียบหรู เดิมทีห้องโถงใหญ่นี้เป็นห้องทรงดนตรีและเต้นรำ แต่ครั้งวังถูกยึดสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ก็ถูกใช้เป็นห้องประชุมปฏิบัติการของคณะราษฎร
เดินออกจากห้องนั้น ก่อนขึ้นบันไดหินอ่อนขัดมันสวยเพื่อไปชมชั้น ๒ ภัณฑารักษ์ให้ยกมือขึ้นกราบขอพระอนุญาตเดินบนบันไดหน้าซึ่งเป็นบันไดสำหรับเจ้านายเท่านั้น
แสงแดดส่องลอดช่องหน้าต่างมากระทบกับลวดลายสีทองวิจิตรแบบศิลปะบาโรกและโรโกโก รวมทั้งลายปูนปั้นตามกรอบหน้าต่าง ผนัง ประตู หัวเสา ที่ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในส่วนหนึ่งของพระราชวังแวร์ซาย ห้องด้านบนเป็นห้องบรรทม ซึ่งเมื่อครั้งสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ทิวงคตที่สิงคโปร์ มีการอัญเชิญพระศพกลับมาตั้งไว้ที่ห้องนี้ พร้อมประดับเศวตฉัตรห้าชั้นตามพระอิสริยยศ ดังนั้นจึงต้องเจาะเพดานห้องเพื่อให้ตั้งเศวตฉัตรได้ ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและเชื้อพระวงศ์ที่ทรงมีต่อกิจการตำรวจด้านต่างๆ
ผมเดินลงมาทางบันไดไม้ด้านหลังสำหรับข้าราชบริพาร ผ่านระเบียงทางเดินหลังตำหนักซึ่งเปิดออกไปเป็นสวนร่มรื่น มีบ่อน้ำพุกว้างอยู่ถัดไป สายลมเย็นสบายพัดมาเบาๆ ช่างดูน่าพักผ่อนหย่อนใจยิ่งนัก
ผมเปิดหนังสือเกิดวังปารุสก์ที่หนีบไว้ข้างตัวขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
“ข้าพเจ้ารักวังปารุสก์อย่างที่สุดเหลือจะหาคำใดมาอธิบายให้ตรงกับใจจริงๆ ได้ ทั้งนี้ไม่ใช่ที่นั้นใหญ่โตหรูหราอย่างใด ความจริงข้าพเจ้ารักวังปารุสก์เพราะเป็นบ้านที่ข้าพเจ้าได้เกิดและเติบโตขึ้น”
ผมผลักประตูแล้วสืบเท้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่อีกครั้ง เมื่อลองหลับตาลงก็รู้สึกราวกับได้ยินเสียงเพลงคลาสสิกของงานเลี้ยงเต้นรำต้อนรับแขกเหรื่อเมื่อครั้งอดีตอันแสนนานคลอมาเบาๆ
แม้ไม่ได้เกิดที่วังปารุสก์ แต่หากมีโอกาสมาชมและสัมผัส คุณอาจหลงรักวังปารุสก์ตลอดไป.