วัดสุวรรณดาราราม
สุวรรณดารารามราชวรวิหาร วัดประจำราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
แม้จะเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรี แต่วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะล่มสลายไม่นานนัก ต่อมาเมื่อรัชกาที่ ๑ ได้ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์จึงได้ปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นใหม่และยกย่องให้เป็นวัดแห่งราชวงศ์จักรี วัดสุวรรณดารารามแห่งนี้จึงถือเป็นจุดคาบเกี่ยวระหว่างกรุงศรีอยุธยาอันเรืองรองและกรุงใหม่ของชาวไทยคือกรุงรัตนโกสินทร์
สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้มีทั้งตัวโบสถ์และวิหาร โบสถ์นั้นเป็นสถาปัตยกรรมช่วงอยุธยาตอนปลาย สังเกตได้จากฐานโบสถ์ที่เป็นแบบตกท้องช้างหรือท้องเชือกและมีเสารองรับชายคาด้านหน้าอาคารภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งหล่อขยายส่วนมาจากพระแก้วมรกตที่กรุงเทพฯ ที่โดดเด่นจนละสายตาไม่ได้คือภาพจิตรกรรมฝาผนัง เขียนขึ้นโดยช่างฝีมืออยุธยา ที่ผนังด้านข้าง ด้านบนเป็นภาพเทพชุมนุม ด้านล่างเป็นภาพทศชาติจากเรื่องสุวรรณสามชาดก เตมีย์ชาดก และพระเวสสันดรชาดก ด้านหลังพระประธานเป็นภาพนรกสวรรค์ ส่วนด้านหน้าเป็นภาพมารวิชัย และมีพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่สวยงามตรึงใจมาก
จากโบสถ์ เราเข้าไปชมจิตรกรรมฝาผนังในวิหารซึ่งเป็นที่ร่ำลือเรื่องความสวยงาม จิตรกรรมในวิหารแห่งนี้ต่างจากที่อื่นๆ เพราะไม่ได้เป็นเรื่องราวพุทธประวัติตามขนบนิยม แต่เป็นเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประมวลเหตุการณ์สำคัญๆในชีวิตของพระองค์ตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ไปจนถึงเมื่อเสด็จสวรรคต รวมทั้งภาพสำคัญคือภาพสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเจ้าบุเรงนอง อยู่บริเวณด้านหน้าพระประธาน เหนือประตูทางเข้าด้านใน ภาพจิตรกรรมนี้วาดโดยพระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) ในสมัยรัชกาลที่ ๗ เป็นภาพจิตรกรรมที่ถูกนำไปเผยแพร่ประกอบเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชบ่อยครั้ง หรือแม้แต่เด็ก ๆ รุ่นใหม่เห็นก็คงจะจำได้เพราะเป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนแบบเรียนชั้นประถมอยู่หลายเล่ม
เราออกมานั่งหน้าต้นโพธิ์ใหญ่หน้าวัด ชมความงามโดยรอบของวัด โบสถ์ วิหาร เจดีย์ทรงลังกาที่รายล้อมด้วยเจดีย์ราย อดชื่นชมไม่ได้เมื่อคิดว่า แม้หลายสิ่งจะถูกทำลายสิ้นไปเมื่อครั้งกรุงแตก แต่เมื่อเวลาหมุนผ่าน ผลัดเปลี่ยนกรุงเปลี่ยนรัชสมัย สิ่งเหล่านั้นจะถูกบูรณะใหม่ให้ยังงดงาม และกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสิ่งเก่าและสิ่งใหม่
พลันนั้นเราคิดว่า บางที ความเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอย่างใจคิด
