หอคอยบรรหาร-แจ่มใส

ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี สวนสาธารณะกลางเมืองสุพรรณบุรีเนื้อที่ 17 ไร่ หอคอยแห่งนี้ตั้งสูงตระหง่านโดดเด่น มองเห็นได้ในระยะไกลไม่ว่าจะอยู่ ณ มุมใดของตัวเมืองสุพรรณฯ
หอคอยบรรหาร-แจ่มใสเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สร้างชื่อเสียงให้ จ. สุพรรณบุรีเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดไปแล้ว บนหอคอยฯ เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองสุพรรณบุรีที่สวยงาม

ประวัติ เดิมบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเรือนจำจังหวัด ต่อมาเรือนจำย้ายไปตั้งยังที่แห่งใหม่ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ริเริ่มและผลักดันให้ใช้พื้นที่บริเวณนี้สร้างเป็นสวนสาธารณะโดยมีหอคอยเหมือนต่างประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา
หอคอยนี้ออกแบบโดยคณะทำงานของ ผศ. เดชา บุญค้ำ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. 2533 แล้วเสร็จเดือน ต.ค. 2537 โดยใช้งบประมาณของมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใสจำนวน 250 ล้านบาทในการก่อสร้าง
สิ่งน่าสนใจ
@ หอคอยบรรหาร-แจ่มใส สูง 123.25 ม. ฐานกว้าง 30 ม. มีสี่ชั้น ขึ้นลงโดยใช้ลิฟต์และบันไดวน ชมทิวทัศน์ได้ตั้งแต่ชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 4 แต่ละชั้นมีสิ่งน่าสนใจดังนี้
- ชั้นล่าง เป็นที่จำหน่ายของที่ระลึก มีภาพจิตรกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน เขียนโดยอาจารย์อุดมลักษณ์ ทรงสุวรรณ แห่งกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ให้ชม เป็นจุดขึ้นลิฟต์ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปยังชั้นที่ 4 จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินลงบันไดวนสู่ชั้นต่ำลงมา (ผู้สูงอายุและคนพิการสามารถใช้บริการลิฟต์ลงมาได้)
- ชั้นที่ 2 เป็นจุดจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม
- ชั้นที่ 3 มีจุดจำหน่ายของที่ระลึก
- ชั้นที่ 4 เป็นชั้นที่เหมาะสำหรับชมทัศนียภาพของ จ. สุพรรณบุรีมากที่สุด เพราะเป็นกระจกโดยรอบ หากต้องการเห็นให้ชัดเจนขึ้น สามารถใช้บริการกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญได้ นักท่องเที่ยวจะเห็นไปไกลถึงพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ วัดไผ่โรงวัว วัดทับกระดาน รวมถึงวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ศาลหลักเมือง และสนามกีฬาจังหวัด บริเวณชั้นนี้ยังมีภาพเขียนเป็นภาพการทำยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชา จำนวนเจ็ดภาพ ผลงานของอาจารย์พิชัย นิรันต์ แห่งกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร
@ สวนดอกไม้ มีไม้ใหญ่และไม้ดอกหลากหลายชนิด ไม้ใหญ่มีราชพฤกษ์ ลั่นทม ไม้ดัดรูปทรงต่างๆ เป็นต้น ส่วนไม้ดอกจะปลูกรวมกันโดยออกแบบแปลงปลูกให้เกิดเป็นลวดลายอันสวยงาม ซึ่งถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นความงามชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกจำลองขนาดเล็ก ธารน้ำจากน้ำตกจะไหลไปรอบสวนด้านที่ติดกับ ถ. ขุนไกร และมีทางเดินขนานไปกับธารน้ำ ที่บางช่วงก็ทำเป็นซุ้มน้ำให้นักท่องเที่ยวได้เดินลอดผ่าน ในบริเวณสวนมีม้านั่งตามจุดต่างๆ ให้นั่งพักผ่อน ทั้งมีการเปิดเพลงบรรเลงขับกล่อมให้รื่นรมย์ด้วย
@ น้ำพุดนตรี
- มีการแสดงเวลา 17.00-19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพิ่มรอบ 12.00-14.00 น.
อยู่ในบริเวณสวนด้านติดกับ ถ. นางพิม ลานแสดงน้ำพุเป็นรูปวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 11.6 ม. มีหัวน้ำพุ 127 หัว ไฟส่อง 247 ดวง ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ให้น้ำพุเคลื่อนไหวเข้ากับจังหวะดนตรี มีอัฒจันทร์ให้นั่งชมได้อย่างเพลิดเพลิน
@ สวนน้ำ
- เปิดเวลา 15.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00-18.00 น.
- ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
เป็นสวนสนุกที่เหมาะสำหรับมาเที่ยวเป็นครอบครัว ภายในบริเวณมีทั้งสไลเดอร์ที่สูงถึง 10 ม. และสไลเดอร์ขนาดเล็ก สูงไม่มาก เหมาะสำหรับเด็ก
@ สนามเด็กเล่น มีพื้นที่ 309 ตร.ม. จำลองจากสวนเบญจสิริที่กรุงเทพฯ มีเครื่องเล่นนานาชนิดสำหรับเด็ก ทั้งม้าหมุน กระดานเลื่อน ชิงช้า และเครื่องเล่นปีนป่าย