พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน)

ชมพระราชวังแบบยุโรป
รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2453 เพื่อประทับในฤดูฝน แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ พระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน สร้างเสร็จสมบูรณ์ใน พ.ศ. 2458 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระองค์พระราชทานนามว่าพระที่นั่งศรเพชรปราสาท ก่อนโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามใหม่ว่าพระรามราชนิเวศน์  คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่าพระราชวังบ้านปืน เนื่องจากสร้างขึ้นในเขต ต. บ้านปืน  ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในเพชรบุรี อยู่ในความดูแลของกองทัพบก
สิ่งน่าสนใจ
     พระที่นั่งศรเพชรปราสาท  เป็นพระตำหนักเพียงหลังเดียวของพระรามราชนิเวศน์ แต่เป็นพระที่นั่งที่มีรูปทรงและการตกแต่งที่งดงามแปลกตา เนื่องจากรัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์ให้เป็นอาคารแบบยุโรป จึงโปรดเกล้าฯ ให้นายคาร์ล ดอห์ริง (Karl Döhring) สถาปนิกชาวเยอรมันซึ่งเคยรับราชการอยู่ในกรมรถไฟ เป็นผู้ออกแบบ  นายดอห์ริงเลือกผู้ร่วมงานทั้งสถาปนิก วิศวกร และมัณฑนากร เป็นชาวเยอรมันทั้งสิ้น เพื่อทำงานให้มีศิลปะเป็นแบบเดียวกัน พระที่นั่งองค์นี้จึงมีรูปแบบศิลปะตะวันตกอย่างเต็มตัว และมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมตามความนิยมของเยอรมันในเวลานั้น คือแบบบาโรก (Baroque) และแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau) หรือที่เยอรมันเรียกว่าจุงเกนชติล (Jugendstil)      
     แบบแผนอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมสวนหย่อม มีสระน้ำพุอยู่ตรงกลาง  ส่วนที่ประทับเป็นตึกสองชั้นขนาดใหญ่หลังคาทรงสูงรูปโดม  ภายในเป็นโถงสูงมีบันไดโค้งขึ้นสู่ชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดเด่นของพระตำหนัก เพราะรวมสิ่งน่าชมไว้หลายหลาก ตัวอย่างเช่นเสาที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบและตกแต่งด้วยโลหะขัดเงา  เสาเหล่านี้แล่นตลอดจากพื้นจดเพดานชั้น 2 และประดับด้วยกระเบื้องเขียวเข้ากันกับบริเวณโดยรอบโถงบันได  ที่หัวเสาตามราวบันไดโค้งมีตุ๊กตากระเบื้องรูปเด็กในอิริยาบถต่างๆ ประดับไว้  รอบบริเวณโถงบันไดชั้นบนยังมีกรอบลูกไม้กระเบื้องเคลือบประดับตามช่องโดยรอบอีกด้วย      
     พระตำหนักหลังนี้ยังมีสิ่งน่าชมอีกมาก ด้วยลูกเล่นของนายช่างที่พลิกแพลงการตกแต่งในแต่ละห้องให้มีรูปลักษณ์แตกต่างกันทั้งสีสันและวัสดุที่ใช้ เช่น บริเวณโถงบันไดใช้โทนสีเขียว ห้องเสวยใช้โทนสีเหลือง ตกแต่งช่องประตูด้วยเหล็กดัดแบบอาร์ตนูโว ประดับผนังด้วยแผ่นกระเบื้องเคลือบสีเหลืองสด ตัดกรอบด้วยกระเบื้องเขียวเป็นช่องๆ ตามแนวยืน โดยกระเบื้องประดับผนังมีลวดลายนูนเป็นรูปสัตว์และพรรณพืชต่างๆ แทรกอยู่เป็นระยะ      
     ห้องพระบรรทมใช้โทนสีทอง ตกแต่งเสาในห้องด้วยแผ่นโลหะสีทองขัดเงาดุนลาย หัวเสาเป็นภาพเขียนแจกันดอกไม้หลากสีบนพื้นครึ่งวงกลมสีทอง ดูสง่างามและมลังเมลือง      
     การชมพระตำหนักนี้ต้องชมอย่างพินิจพิเคราะห์โดยละเอียด จึงจะเห็นคุณค่าทางศิลปะที่บรรจงสรรค์สร้างไว้อย่างงดงาม
 
Please rate this place
Total votes: 313