พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี
ค่าเข้าชม คนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงให้ความสำคัญในเรื่องประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับเมืองราชบุรีเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นด้วย ถ้าเป็นไปได้นักท่องเที่ยวควรวางแผนเดินทางมาเที่ยวชมที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อน เพราะจะสามารถรู้จักและเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองราชบุรีได้ในเวลาอันสั้น
ประวัติ อาคารพิพิธภัณฑ์สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2465 ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นศาลาว่าการมณฑลและเป็นศาลากลางหลังแรกของราชบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2520 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2531 มีการซ่อมแซมปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี
อาคารพิพิธภัณฑ์ เป็นอาคารชั้นเดียวครึ่งตึกครึ่งไม้ หลังคาปั้นหยา พื้นเป็นไม้สัก ตัวอาคารล้อมพื้นที่ตรงกลางซึ่งเป็นลานโล่งทั้งสี่ด้าน ด้านหน้าอาคารมีหน้าบันขนาบด้วยเสาที่มียอดทรงกลมทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (baroque) จัดเป็นอาคารเก่าที่สวยงามน่าชมแห่งหนึ่ง
นิทรรศการ ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวทั้งเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีไว้อย่างน่าสนใจ โดยแบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น
ห้องธรณีสัณฐานบริเวณเมืองราชบุรี จัดแสดงแผนภูมิเรื่องดิน หิน แร่ และภูเขา ที่มีอยู่ในราชบุรี สะท้อนให้เห็นเหตุปัจจัยของการตั้งถิ่นฐานในบริเวณเมืองราชบุรี
ห้องก่อนประวัติศาสตร์ หลักฐานที่นำมาแสดงในห้องนี้เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่ได้มาจาก อ. สวนผึ้ง บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี
ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวราชบุรี มีเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือหาปลา เครื่องมือการเกษตรของชาวบ้าน จัดแสดงอยู่
นอกจากนี้ยังมีห้องแสดงความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในราชบุรี เช่น ชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ ชาวจีน เป็นต้น และมีนิทรรศการเกี่ยวกับคนเด่นคนดังในอดีตผู้เคยสร้างชื่อเสียงให้เมืองราชบุรี เช่น รวม พรหมบุตร ผู้ได้รับการขนานนามว่า “ระนาดน้ำผึ้งแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง” ละออ ทองมีสิทธิ์ ศิลปินพื้นบ้านดีเด่นสาขาหนังใหญ่ นับเป็นการสร้างความรู้สึกท้องถิ่นนิยมให้คนราชบุรีได้เป็นอย่างดี