Craft Coffee @ JJ market
บ่ายวันศุกร์ที่แสงแดดส่องสว่าง ตลาดนัดสวนจตุจักรเริ่มคึกคักจากการที่ร้านค้าหลายแห่งเข้ามาจัดเตรียมสินค้าเพื่อรอขายในวันหยุดสุดสัปดาห์
เมื่อเดินผ่านโซนศิลปะมาเรื่อยๆ ตรงข้ามธนาคารใหญ่สีเขียว กลิ่นกาแฟบดหอมหวานโชยมากระทบประสาทรับกลิ่น มองไปก็สะดุดตากับอุปกรณ์ชงกาแฟดริปแบบเย็น พร้อมกับเสียงเชิญชวนให้ลองจิบกาแฟจากฝีมือการคั่วของทางร้านเอง
“มิก” หนุ่มเจ้าของร้านยื่นถุงกาแฟคั่วเสร็จใหม่หมาด เปิดให้ลองดมกลิ่นของเมล็ดกาแฟไทยคั่วใหม่ เขาบอกว่ามาจาก “เลตองโก” อ. ท่าสองยาง จ. ตาก ถุงหนึ่งเป็นเม็ดที่ผ่านการโพรเซสด้วยวิธีตากแห้งแบบดราย อีกถุงหนึ่งเป็นแบบ honey process สองถุงกลิ่นแตกต่างกันเล็กน้อย แต่หวานและอวลกลิ่นชอคโกแลต ถั่ว
กาแฟเพิ่งคั่วเสร็จยังไม่ทันคายก๊าซ เราจึงลอง “ชุนช่างเคี่ยน” จากยอดดอยสุเทพ เชียงใหม่
แก้วนี้ของยามบ่ายช่างนุ่มปากนวลใจ มันมีกลิ่นของความรื่นรมย์ ปนกลิ่นเมฆฝนบนดอยสูง รสกาแฟที่ชงแบบดริปเข้มเล็กน้อย มีรสเปรี้ยวเจือจาง แต่ทิ้งความหวานยาวนานอยู่ในกระพุ้งแก้ม
ร้านนี้ไม่มีเมล็ดจากต่างประเทศให้ลอง แม้จะเคยลองนำมาเสนอให้ลูกค้า แต่ใครจะเชื่อว่าปีกว่าๆ ที่ผ่านมาในตลาดนัดสวนจตุจักร ลูกค้าชาวไทยนับว่าน้อยกว่าน้อย ลูกค้านานาชาติต่างหากที่เป็นคนนิยม และล้วนต้องการมาลิ้มลองกาแฟไทย ที่นับวันจะก้าวหน้าจนเป็นหนึ่งในกาแฟที่ชาวโลกรู้จัก
ร้านนี้เสิร์ฟเฉพาะกาแฟดำ และจำเพาะลงไปที่กาแฟดริป ทั้งร้อนและเย็น มีป้ายเขียนราคาไว้แค่ hot 100 ice 120คนไทยอาจมองว่าราคาสูง แต่ 3 เหรียญยูเอส ดูจะเป็นมาตรฐานราคากาแฟทั่วโลกไปแล้ว
ร้านขนาดสองห้องไม่เกิน 20 ตารางเมตร มีสตูลบาร์ให้นั่งไม่กี่ที่ แต่ดูคึกคักน่าสนใจ บนชั้นด้านหนึ่งวางดริปเปอร์ดีไซน์เก๋เหมือนขดลวด แก้วเซรามิคทำมือจากคนทำผู้ใส่ใจ แท่นดริป กาดริป กาแฟคั่วสำเร็จให้เลือกซื้อ และที่น่าสนใจยิ่งกว่าสำหรับใครที่ต้องการทดลองคั่วกาแฟเอง ที่นี่ก็มีเมล็ดดิบให้เลือกซื้อเดินเล่นในตลาดนัดจตุจักร หากร้อนและต้องการนั่งพัก ลองไปจิบกาแฟร้อน กลางอากาศอุ่น นั่งมองความเคลื่อนไหว ให้กลิ่นรสและกาแฟสร้างความรื่นรมย์ขึ้นอีกครั้ง