ครัวยักษ์กะโจน

     อีกทางเลือกหนึ่งให้คนเมืองที่ใช้ชีวิตกินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน สามารถเลือกกินอาหารปลอดภัยได้ในราคาที่เป็นธรรม

     ที่นี่ปรุงอาหารดีๆ จากวัตถุดิบคุณภาพดีไร้สารเคมี  ข้าว ไข่ เครื่องปรุงบางอย่าง และผักผลไม้นานาชนิด เป็นผลผลิตสดใหม่จากเกษตรกรในเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติที่ ต. สองสลึง และ ต. โป่งแรด จ. จันทบุรี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ยักษ์-วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และอาจารย์โจน จันใด แห่งสวนพันพรรณ

     ขอแนะนำให้ชิมข้าวของร้านนี้ เป็นข้าวกล้องมหัศจรรย์ที่นำข้าวกล้องเหนียวธรรมชาติสันป่าตองมาสีให้เป็นข้าวกล้องแล้วหุงแบบข้าวสวย นิ่มอร่อย หวานธรรมชาติ แถมไฟเบอร์สูง สารอาหารเยอะด้วย

     ส่วนเมนูจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน เป็น “อาหารตามมี” ไม่ใช่ตามสั่ง ปรุงโดยเชฟเยียร์-นิติ พจน์ปฏิญญา ผู้สร้างสรรค์วัตถุดิบบ้านๆ ให้เป็นจานอร่อย อย่างเมนูที่มีชื่อชวนฉงน “กระเจี๊ยบใคร?” คือกระเจี๊ยบผัดที่ใส่น้ำตาลนิด เต้าเจี้ยวหน่อย แต่อร่อยเหลือเชื่อ

     “อร่อยโพด” เมนูที่คล้ายอาหารฝรั่งแต่มีกลิ่นแบบเอเชีย นำข้าวโพดมาผัดกับไก่และมิกซ์ซอสที่ครบรสเปรี้ยวหวานเผ็ดเค็ม  จุดเด่นอยู่ที่ใส่เครื่องเทศหลายชนิด ทั้งลูกผักชี พริกไทย พริกแห้ง ใบมะกรูดฝอย และงาขาว เพิ่มความหอมให้จานนี้มีหลายมิติ

     เมนูพื้นๆ ร้านนี้ก็ปรุงได้อร่อยเด็ด ไม่ว่าจะเป็นข้าวไข่เจียวใส่ผักแสนอร่อย ไข่เจียวหนานุ่มแต่ไม่เลี่ยนน้ำมัน  น้ำพริกกะปิรสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยว เค็ม หรือเผ็ดจนโดด  หรือแม้แต่ผัดกะเพราก็ยังอร่อยกินกันเกลี้ยงจาน  ทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรสและใช้น้ำมันหมูที่เจียวเอง

     สนนราคากับข้าวเริ่มที่ 80 บาท อาหารจานเดียว 60 บาท  ทุกโต๊ะจะได้รับเมนูแถมฟรีคือน้ำพริกกะปิกับผักสดอินทรีย์ตามฤดูกาล

     เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งกินข้าวใต้ร่มไม้ใหญ่ ชมนกชมกระรอก มีแปลงผักสวนครัวอยู่ใกล้ตัว  ใครคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี แค่บอกเชฟ เชฟจะทำให้กินเหมือนพี่น้องทำกับข้าวให้กัน  และถ้ามาที่ร้านไม่ได้ เขาก็มีบริการข้าวกล่องมหัศจรรย์ดิลิเวอรีด้วย

     วันจันทร์-ศุกร์นอกจากได้ชิมเมนูอร่อยๆ ยังได้เลือกซื้อผักสดผลไม้ ซึ่งจะมีสินค้าเข้ามาสต็อกไว้ทุกวันพฤหัสฯ  ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์พื้นที่ร้านจะเปลี่ยนเป็นตลาดนัดธรรมชาติ จำหน่ายผลผลิตหลากหลายจากเพื่อนเกษตรกร (ติดตามรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก)

     ใกล้กันเป็นยักษ์กะโจนคาเฟ่แอนด์ฟาร์ม ที่ในอนาคตจะทำเป็นศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ให้คนเมืองมาเรียนรู้การปลูกผักด้วยตนเองอีกด้วย