นมอินทรีย์ แดรี่โฮม
โรงนมบริษัทแดรี่โฮม จำกัด ซึ่ง พฤฒิ เกิดชูชื่น เริ่มทำเมื่อปี 2542 ยึดคอนเซ็ปต์ว่า “เกษตรกรต้องถือความสุขของวัวเป็นสำคัญ ผู้บริโภคจึงจะได้ดื่มนมอร่อย”
เขาเริ่มธุรกิจจากการเปิดร้านขายนมปลอดสารพิษจากฟาร์มของคนรู้จักที่ริม ถ. มิตรภาพ เมื่อได้ผลตอบรับดีจึงเปิดโรงงานผลิตภัณฑ์นม ยิ่งเมื่อถึงปี 2546 ที่รัฐบาลทำข้อตกลงการค้าเสรีกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เขายิ่งเห็นว่าหนทางอยู่รอดของเกษตรกรวัวนมไทยคือต้องผลิตน้ำนมดิบให้มีคุณภาพดีกว่าและต้องเป็นอินทรีย์เท่านั้น
เพราะการผลิตนมอินทรีย์ นอกจากลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์โดยปลูกหญ้าเองซึ่งไม่ใช้ปุ๋ยเคมี และใช้แรงงานของเกษตรกรเป็นหลักก็ได้ผลผลิตคุณภาพสูงแล้ว ในขณะนั้นเมืองไทยยังไม่มีใครทำ
อย่างฟาร์มสาธิตขนาด ๕ ไร่รอบโรงผลิตนมของเขาจะเลี้ยงเฉพาะวัวตัวเมียเพียง 10 ตัวเท่านั้น เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับปลูกหญ้าปลูกพืชให้วัวกิน และวัวทุกตัวจะได้เดินเล็มหญ้าสะอาดอย่างอิสระ ในพื้นที่ยังเลี้ยงไก่ไข่ด้วย เมื่อกำจัดเห็บโดยใช้หวีสางขนวัว เห็บที่ติดมากับหวีจะเป็นอาหารไก่เพื่อตัดวงจรแพร่พันธุ์ ไก่ก็ได้อิ่มและเป็นการงดให้ยาวัวโดยไม่จำเป็น
การเลี้ยงระบบอินทรีย์แม้ได้น้ำนมไม่มาก แต่เป็นน้ำนมที่ดีและวัวมีสุขภาพแข็งแรงมาก เมื่อแดรี่โฮมแสดงให้เห็นว่าอาชีพเกษตรกรวัวนมอินทรีย์มีความมั่นคงและได้เข้าไปให้ความรู้กับชุมชน ฟาร์มที่เลี้ยงวัวแบบทั่วไปบางแห่งก็เริ่มปรับมาเป็นฟาร์มอินทรีย์
เมื่อน้ำนมอินทรีย์ส่งถึงโรงงานแดรี่โฮม ทางโรงงานยังใช้กระบวนการผลิตอาหารคาร์บอนต่ำด้วย ทุกผลิตภัณฑ์จึงขึ้นทะเบียนติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ซึ่งได้การรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกฯ ไม่ว่าจะเป็นนมพาสเชอไรซ์ นมพาสเชอไรซ์พร่องมันเนย นมปรุงแต่งพาสเชอไรซ์รสและกลิ่นต่างๆ หรือโยเกิร์ต โดยเฉพาะโยเกิร์ต ทางแดรี่โฮมใช้บรรจุภัณฑ์แบบชีวภาพ 100% เป็นรายแรกในเอเชียมาตั้งแต่ราวปี 2556 แล้ว
พฤฒิ เกิดชูชื่น วางตำแหน่งแดรี่โฮมเป็นโซเชียลเอนเตอร์ไพรส์ ตั้งเป้าให้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่งผลโดยตรงต่อเกษตรกรและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของวิถีนมอินทรีย์ไทยทั้งระบบในอนาคต