ไร่สุขพ่วง ศูนย์การเรียนรู้ Earth Safe อินทรีย์วิถีไทย

     หลังเรียนจบด้านการจัดการอุตสาหกรรม อภิวรรษ สุขพ่วง ตัดสินใจกลับมาอยู่กับครอบครัวที่ จ. ราชบุรี และได้ปรับพื้นที่การเกษตรของครอบครัวราว 25 ไร่ โดยเริ่มจากการปลูกข้าวซึ่งได้ผลผลิตเพียงพอสำหรับสมาชิกในครอบครัว ก่อนจะขยายสู่การปลูกพืชผักสวนครัว

     เขาพยายามนำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เข้ามาประยุกต์ใช้ ร่วมกับการทำเกษตรอินทรีย์วิถีไทย ปลูกผักพื้นบ้านอย่างผักปลัง ผักติ้ว ผักกระโดน ผักเม็ก ผักกูด มะระขี้นก รวมทั้งสะเดา ข่า ตะไคร้ และมะกรูดป่า

     ขณะเดียวกันพื้นที่ราชบุรีมีการปลูกอ้อยจำนวนมาก อภิวรรษจึงศึกษาข้อมูลและพัฒนาสู่การแปรรูปอ้อยเป็นน้ำตาลอ้อยอินทรีย์วิถีไทย  และในพื้นที่ยังมีการปลูกกล้วย เขาก็ขยายสู่การทำกล้วยตากพลังแสงอาทิตย์ และการทำชาย่านางจากผลผลิตในชุมชนเช่นกัน

     การผลิตของที่นี่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า หรือฮอร์โมนสังเคราะห์ เน้นใช้สมุนไพรธรรมชาติ  ทั้งการเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ก็ไม่ใช้อาหารเม็ดหรืออาหารสำเร็จรูปด้วย

     ผลผลิตที่ขายดีที่สุดของไร่ คือ ตำลึง ผักพื้นบ้าน ผักปลัง และมะระขี้นก ที่ในปัจจุบันขายได้ราคาสูงกว่าผักตลาด เพราะคนในเมืองเริ่มเปลี่ยนมากินผักพื้นบ้านกันมากขึ้น  อภิวรรษยังเพิ่มช่องทางการขายโดยติดต่อร้านอาหาร ร้านส้มตำ ร้านปลาเผา ไปจนถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อนำผักพื้นบ้านไปทำอาหาร

     ผลผลิตส่วนใหญ่จะขายที่ไร่ ส่วนผลิตภัณฑ์แปรรูปบางอย่างมีวางจำหน่ายตามร้านกาแฟในพื้นที่ใกล้เคียง

     อภิวรรษเปิดไร่เป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ด้วย เพื่อเผยแพร่ความรู้ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผักในตะกร้า ทำการเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็ก ทำปุ๋ยปลอดภัย เลี้ยงสัตว์แบบพึ่งพา (หมูป่า เป็ด ไก่ไข่ ปลาดุก) ทำอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำ แปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เช่น น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วจากอ้อย กล้วยตาก เป็นต้น

 

Please rate this place
Total votes: 58